คลังบทความของบล็อก

วันเสาร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2562

การป้องกันโรคสมองเสื่อม


 การป้องกัน


           โรคสมองเสื่อมเป็นโรคที่หลายคนกลัว และไม่อยากให้เกิดขึ้นทั้งกับตัวเองและคนใกล้ชิด เพราะนอกจากความจำจะแย่ลงแล้ว ยังสูญเสียความสามารถที่จะช่วยเหลือตัวเองในชีวิตประจำวันอีกด้วย บางรายใส่เสื้อหรือแต่งตัวเองไม่ได้ บางคนสูญเสียความสามารถที่เคยภาคภูมิใจ เช่นเป็นคนทำอาหารเก่ง กลับกลายเป็นทำอาหารเค็มจัด ไหม้เกรียม ไม่อร่อย หรือไม่สามารถทำได้เลยก็มี บางคนเคยภูมิใจในการวาดรูป เล่นดนตรี ก็อาจสูญเสียความสามารถส่วนนั้นไป
               1.รับประทานอาหารดี ให้ความสำคัญกับอาหารมื้อเช้า หมั่นรับประทานผักหลากสีและไขมันกลุ่มโอเมก้า3 ให้เพียงพอเพื่อช่วยกระตุ้นการทำงานและซ่อมแซมเซลล์สมอง งดอาหารหวานจัด เค็มจัด และสารปรุงแต่งในอาหาร
               2.จากงานวิจัยกว่า 10 รายงานยืนยันว่า ผู้ที่ออกกำลังกายร่างกายเป็นประจำ เช่น เดินวิ่งวันละ 35 - 60 นาที จะมีอาการป่วยด้วยโรคสมองเสื่อมน้อยกว่าผู้สูงอายุที่ไม่ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
               3.หมั่นเรียนรู้สิ่งใหม่ เพราะทุกครั้งที่เกิดการเรียนรู้ เช่น อ่านหนังสือ ฝึกทำอาหาร เรียนดนตรี เซลล์สมองจะมีการงอกแขนงใยประสาท เชื่อมต่อกับเซลล์สมองรอบๆ เพื่อจำข้อมูลใหม่ ผู้ที่เรียนรู้เรื่องใหม่ๆ เรื่อยๆ จึงมีความหนาแน่นของใยสมองมาก ไม่เกิดอาการสมองเสื่อมได้ง่ายๆ เมื่ออายุมากขึ้น
               4.มีกิจกรรมทางสังคมสม่ำเสมอ เพราะทุกครั้งที่มีการเข้าสังคม เช่น กินข้าวกับเพื่อนเก่า ไปงานเลี้ยงรุ่น ช่วยงานบุญใหญ่ของวัด หรือทำกิจกรรมจิตอาสา จะช่วยให้สมองกระปรี้กระเปร่า แจ่มใส สารสื่อประสาทที่ดีในสมองก็จะเพิ่มจำนวนขึ้น ตรงข้ามกับผู้ที่ชอบเก็บตัว อยู่คนเดียว ไม่เข้าสังคม เซลล์สมองจะไม่งอกงาม สารสื่อประสาทที่ดีจะน้อยลงเรื่อยๆ
               5.นอนหลับอย่างเพียงพอ ควรเริ่มตั้งแต่วัยหนุ่มสาว แต่ไม่ว่าจะอายุเท่าไรก็ต้องดูแลครับ เพราะการหลับเป็นการปรับการทำงานของสมอง ช่วยเปลี่ยนความจำระยะสั้นเป็นความจำระยะ และเป็นช่วงเวลาของกลไกการลบลืมความจำบางสิ่งบางอย่าง เช่น การลบรายละเอียดที่ไม่จำเป็น ก็เกิดในช่วงการนอนหลับด้วยเช่นกัน หากเราจดจำทุกสิ่งอย่างโดยไม่มีการลืม อาจทำให้สมองทำงานหนักแต่ด้านความจำ ส่งผลเสียให้ความคิดสร้างสรรค์ลดลง สมองไม่ปลอดโปร่งว่องไวอย่างที่ควร
               6.งดสูบบุหรี่ งดดื่มเหล้า เพราะเป็นสาเหตุร้ายทำลายสมองทั้งทางตรงและทางอ้อม แต่มีการศึกษาที่ยกเว้นไว้คือ ไวน์แดงในปริมาณไม่เกิน 2 แก้วต่อวันที่ส่งผลดีต่อสมอง
               7.รู้จักผ่อนคลาย ลดความเครียดประจำวัน ด้วยดนตรี การนั่งสมาธิ และหากมีอาการต้องสงสัยเป็นโรคซึมเศร้าควรรีบรักษาทันที มีการศึกษาพบว่าความเครียดและโรคซึมเศร้าจะมีปุ๋ยของเซลล์สมองที่เรียกว่า BDNF คือสารที่ช่วยให้มีการเชื่อมต่อของเซลล์ประสาทในสมอง หากซึมเศร้ามาก เครียดมากจะขาดสารนี้ จนทำให้สมองฝ่อและเสื่อมเร็ว
               8.ดูแลรักษาโรคพื้นฐาน หรือเรื้อรังให้ดี เช่น กลุ่มความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง เบาหวาน และความอ้วน หากไม่ได้รับการรักษา จะยิ่งเร่งให้สมองเสื่อมเร็วมาก และความจำไม่ดีตั้งแต่อายุยังน้อย
               9.รับวิตามินดีในแสงแดด เพราะจากการศึกษาพบว่าผู้ป่วยอัลไซเมอร์ มีระดับวิตามินดีต่ำกว่ากลุ่มคนทั่วไป แม้ในประเทศไทยที่มีแสงแดด แต่หากทำงานช่วงค่ำ กลางคืน หรือไม่ได้เจอแสงแดดเลยอาจมีความเสี่ยงได้เช่นกัน
               10.เลี่ยงการกระทบกระแทกต่อศีรษะ เช่น การหกล้มบ่อย หัวกระแทกตู้โต๊ะที่ไม่เป็นระเบียบแรงๆ การเล่นกีฬา ที่ต้องกระทบกระแทกศีรษะมาก เช่น ชกมวย คาราเต้ ทำให้สมองบาดเจ็บ สมองเสื่อมไวได้




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น